การกินอาหารและการเจริญเติบโตของปลา - กระชัง ปลา-กบ

เราคือ ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย ระชังเลี้ยงปลา-ก
เราคือ ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย กระชังปลา-กบ
เราคื ผู้ผลิต และ จัดจำหน่าย  กระชังเลี้ยงปลาสำเร็จรู
กระชังบกสำหรับเลี้ยงกบ บ่อปลาสำเร็จรูป กระบะเลี้ยงจิ้งหรีด

เราคือ ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย  กระชังเลี้ยงปลาสำเร็จรูปกระชังบกสำหรับเลี้ยงกบบ่อปลาสำเร็จรูปกระบะเลี้ยงจิ้งหรีด

Go to content

การกินอาหารและการเจริญเติบโตของปลา

บทความ > ปลา
สัตว์ขนาดเล็กชนิดหนึ่งที่ปลากินเป็นอาหาร
การหาอาหารและการเจริญเติบโตของปลา  สัตว์ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นสัตว์บกหรือสัตว์น้ำ จำต้องได้รับพลังงานเข้าไว้ในร่างกายเพื่อใช้ในการตำรงชีวิต เช่น การเคลื่อนไหว การซ่อมแซมส่วนของร่างกายที่สึกหรอ การเจริญเติบโตและการสืบพันธุ์ พลังงานที่ได้รับเหล่านี้มาจากอาหารที่สัตว์กินเข้าไป และการหายใจ

สำหรับปลาโดยทั่วไป เมื่อถูกปลาฟักออกมาจากไข่ใหม่ ๆ อาหารที่ถูกปลาได้รับจะมาจากซึ่งเป็นส่วนเดิมที่ได้รับถุงไข่แดงซึ่งอยู่ติดกับตัวลูกปลานั้นเอง ซึ่งเป็นส่วนเดิมที่ได้รับจากแม่เพื่อช่วยให้ถูกปลาอยู่รอดไปได้ระยะหนึ่ง แต่อาหารที่มีในไข่แดงก็จะถูกใช้หมดไปในระยะเวลาอัน สั้น ดังนั้น ลูกปลาจึงจำต้องเริ่มหาอาหารจากภายนอก และในระยะนี้เองที่ถูกปลาทั่วไปจะตายเป็นจำนวนมาก เหลือรอดเพียงเล็กน้อย หากไม่ได้อาหารที่เหมาะแก่ความต้องการหรือขนาดของอาหารใหญ่เกินไป ลูกปลาก็ไม่สามารถจะกลืนกินได้ปลาแต่ละชนิดมีความต้องการในเรื่องชนิดของอาหารไม่เหมือนกัน ปลาบางชนิดกินพืช  น้ำเป็นอาหารตลอดชีวิต เช่น ปลาจีน (Hypophthalmichthys sp.) ส่วนปลาทูกินสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก  ที่ล่องลอยไปตามกระแสน้ำ ซึ่งเราเรียกว่า แพลงก์ตอน (plankton) เป็นอาหาร ปลาบางจำพวก หากินตามพื้นท้องน้ำ เช่น กินหอย ปู กุ้ง เป็นอาหาร ปลาขนาดใหญ่หลายชนิดตามล่าเหยื่อเป็นอาหาร เช่น ปลาช่อน ปลาดาบเงิน ปลาอินทรี

นอกจากอาหารที่ปลาจะหาได้แล้ว ยังมีแร่ธาตุอื่นๆ ซึ่งปลาต้องใช้เพื่อการเจริญเติบโต แร่ธาตุต่างๆ เหล่านี้เป็นจำพวกเกลือหลายชนิดที่ละลายอยู่ในน้ำ ปลาสามารถรับแร่ธาตุเหล่านี้ได้ โดยการซึมเข้าทางเหงือก เยื่อหุ้มโพรงปากและทางผิวหนัง แร่ธาตุบางอย่างหากมีมากก็อาจเป็น พิษแก่ปลา เช่น สารจำพวกสังกะสี ทองแดง ปรอท โคบอลต์

อาหารที่ปลาหาได้ในธรรมชาติ นอกจากจะเป็นพวกพืชน้ำ หรือแพลงก์ตอนแล้วยังมีสัตว์ ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง (annelids) หอย กุ้ง ปู และ แมลงชิดต่างๆ (arthropods) จากนี้เรายังอาจพบสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังขนาดใหญ่ เช่น นก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ครึ่งน้ำครึ่งบก ในกระเพาะของปลาบางข้าพวก ซึ่งแสดงว่าปลากินมันเข้าไป ดังจะเห็นได้ว่า นักตกปลาช่อนชอบใช้เขียดเป็นเหยื่อล่อปลาช่อน

อาหารของปลาที่เป็นสิ่งที่มีชีวิตอาศัยในแหล่งน้ำไม่ว่าจะเป็นน้ำจืดหรือน้ำทะเล จะมีปริมาณไม่คงที่ทุกปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับชีวประวัติและสภาพแวดล้อมของปลาเป็นส่วนใหญ่ นี้เองเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการเพิ่มลดโดยธรรมชาติในขนาดของประชากร (natural flucturation) ของปลาที่กินสิงที่มีชีวิตเหล่านั้นเป็นอาหาร นอกจากนี้ ความอุดมสมบูรณ์ของอาหารยังมีอิทธิพลต่อการอพยพย้ายถิ่นของปลาหลายชนิด ตัวอย่างเช่น ปลาทูในอ่าวไทยซึ่งกินแพลงก์ตอนจำพวก พืชเป็นอาหาร ปลาชนิดนี้จะวางไข่ในราวเดือนมกราคม-มีนาคม และอีกระยะหนึ่งราวเดือน พฤษภาคม-มิถุนายน เมื่อถูกปลาฟักออกเป็นตัวและเริ่มหาอาหารกินเองภายในหนึ่งอาทิตย์หลัง  จากที่ฟักเป็นตัวแล้ว ฝูงถูกปลาจะเคลื่อนที่เข้ามาในที่ตื้นบริเวณใกล้ฝั่งเพื่อหาอาหาร บริเวณเหล่านี้ ได้แก่ ชายฝั่งทะเลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และชุมพร แล้วลูกปลาดังกล่าวจะค่อย ๆเคลื่อนฝูงสู่ก้นอ่าวไทย และในระยะระหว่างเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคมจนถึงประมาณเดือน ตุลาคม-พฤศจิกายน ก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้น เป็นปลาขนาดที่ชาวประมง เรียกว่า ปลาทูสาว ปลาเหล่านี้จะเดินทางย้อนกลับลงไปยังบริเวณทะเลนอกจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และชุมพรเพื่อวางไข่ต่อไป
ลูกปลาทูที่สำรวจพบว่ามีถิ่นเกิดอยู่ ในบริเวณอ่าวไทย มิใช่เกิดในทะเล จีนแล้วเคลื่อนฝูงเข้ามาในเขตน่าน น้ำไทยอย่างที่เคยเข้าใจ
แผนภาพแสดงความสัมพันธ์ใน ห่วงโซ่อาหาร (food chain) ของปลา พื้ชและสัตว์ในทะเล
เมื่อได้ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างอาหารและการเจริญเติบโตของปลา ผู้สนใจก็ควรมี ความเข้าใจในหลักการทางนิเวศวิทยา (ecology) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย กล่าวคือสิ่งที่ มีชีวิตและอาหารของปลามีความสัมพันธ์กันเป็นห่วงโซ่ เช่น ปลาช่อนที่เลี้ยงไว้ในบ่อ จะเจริญเติบโตมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นถึง 3 กิโลกรัม ก็อาจจะต้องกินปลาหมอเทศถึง 10 กิโลกรัมเป็นอาหาร และ ปลาหมอเทศจะเพิ่มน้ำหนัก 1 กิโลกรัม ก็อาจจะต้องกินพืชน้ำและสาหร่ายในบ่อเป็นน้ำหนักนับสิบกิโลกรัม พืชน้ำและสาหร่ายจะเจริญเติบโตดีก็จำต้องอาศัยแร่ธาตุและอาหารต่าง ๆในบ่อพร้อม ทั้งพลังงานแสงแดด แร่ธาตุต่าง ๆ และเกลือที่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืชได้จากการย่อยและการเปลี่ยนแปลงสภาพของอินทรียวัตถุต่าง ๆ เช่น โดยการกระทำของบัคเตรีซึ่งอาศัยอยู่ในโคลนตม บัคเตรีทำการย่อยสัตว์และพืชที่ตายและตกลงบนชั้นโคลนในบ่อให้สลายตัวและเน่าเปื่อย จึงทำให้เกิดเป็นห่วงโซ่อาหารขึ้น เมื่อคิดพลังงานที่ใช้ในการเติบโตของสิงที่มีชีวิตแต่ละตอน เราจะได้เป็นรูปพีระมิด

พีระมิตปริมาณอาหาร (ecological piramid หรือ hypothetical piramid หรือ piramid of multimbers เป็นรูปสามเหลียมแสดงระดับและปริมาณที่  ที่ถูกใช้เป็นอาหารหรือทีเดียว  พันกัน ซึ่งอยู่ระดับรองลงไป พวกหลังนี้ จะต้องมีปริมาณหรือจำนวนมากกว่าผู้ส่า ของมันเสมอ

พื้นที่อยู่บริเวณส่วนลึกในช่องปากของปลา ใช้บดอาหารที่เป็นพวกพืซ

No comments
Back to content