การเลี้ยงปลากดเหลือง
บทความ > การเลี้ยงปลาต่าง
ปลากดเหลืองสามารถเจริญเติบโตและอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย แต่ชอบอาศัยอยู่ตามพื้นท้องน้ำที่เป็นแอ่งหิน หรือเป็นพื้นดินแข็ง และยังสามารถปรับตัวให้เจริญเติบโตได้ดีในสภาพน้ำพรุ ที่มีความเป็นกรดสูงและมีปริมาณสารแขวนลอยมาก เป็นปลาน้ำจืด ชนิดหนึ่งที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจสูง มีราคาดี เนื้อมีรสชาติดีเป็นที่ นิยมของผู้บริโภค ทั้งในรูปสดและแปรรูป เช่น แกงเหลือง ภู่นี่ ย่าง ฯลฯ
รูปแบบการดำเนินงาน
การเลี้ยงปลากดเหลืองให้ได้ขนาดตามที่ตลาดต้องการนั้น สามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ่อดินและกระชัง
การเลี้ยงปลากดเหลืองในบ่อดิน
ควรตากพื้นบ่อให้แห้งพร้อมทั้งปรับสภาพกันบ่อให้สะอาด ใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพของดิน ในอัตรา 60 - 100 กิโลกรัมต่อไร่ ใส่ปุ๋ยคอกเพื่อให้เกิดอาหารธรรมชาติสำหรับลูกปลา ในอัตรา 40 - 80 กิโลกรัมต่อไร่ กรองน้ำเข้าบ่อไม้ให้ศัตรูของลูกปลาติดเข้ามากับน้ำ วันรุ่งขึ้นจึงปล่อยปลาและเพื่อให้ลูกปลามีอาหารกิน ควรเติมไรแดง ในอัตรา 5 กิโลกรัมต่อไร่ หลังจากนั้นจึงให้อาหารผสมแก่ลูกปลา การปล่อยลูกปลาลงบ่อเลี้ยงจะต้องปรับสภาพอุณหภูมิ ของน้ำในถุง และน้ำในบ่อให้เท่าๆ กันก้อน เวลาที่เหมาะสมในการปล่อยลูกปลา ควรเป็นตอนเย็นหรือตอนเช้า พันธุ์ปลาที่ปล่อย ควรเริ่มที่ขนาด 5-7 เซนติเมตร. เพราะเล็กว่านี้ อัตราการรอดจะน้อยลง และ อัตราการปล่อย ไม่ควรมากเกิน อยู่ที่ ตารางเมตรละ 1-2 ตัว
การเลี้ยงปลากดเหลืองในกระชัง
ปล่อยปลาขนาด 200 - 250 กรัม จนถึงขนาดตลาดอัตรา ปล่อย 1,000 ตัวต่อกระชัง ให้ปลาเป็ดสับและส่วนผสมอื่นๆ เป็น อาหารวันละ 1 ครั้ง ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 4 เดือน ปลาเจริญเติบโตมีน้ำ หยักเฉลี่ย 540 กรัมต่อตัว ได้ผลผลิตประมาณ 460 กิโลกรัมต่อกระชัง การปล่อยลูกปลาลงบ่อเลี้ยงจะต้องปรับสภาพอุณหภูมิของน้ำใน ถุงและน้ำในบ่อให้เท่าๆ กันก่อนเวลาที่เหมาะสมในการปล่อย ลูกปลาควรเป็นตอนเย็นหรือตอนเช้า เพราะจะทำให้ปลาปรับตัวได้ดีที่สุด ปล่อยปลาตารางเมตรละ 50 - 70 ตัว และควรหมั่นคัดขนาดปลาให้สม่ำเสมอกันด้วย
ตลาดและผลตอบแทน
ปลากดเหลืองขนาด 3 - 5 ตัวต่อกิโลกรัม (ขนาดเฉลี่ย 250 กรัมต่อตัว ) จำหน่ายให้ผู้รวบรวมหรือผู้บริโภคในท้องถิ่นทาง ภาคใต้ราคา 40 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่ราคาจำหน่ายปลีกแก่ ผู้บริโภคในตลาดสดในเขตเมืองราคา 60 - 80 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับราคา ขายส่งไปยังตลาดต่างประเทศ ในราคา 100 - 120 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณ และความสดของปลาเป็นสำคัญ
ตลาดของปลากดเหลืองยังสดใส่ เกษตรกรผู้เลี้ยงควรศึกษาข้อมูล ก่อนการเลี้ยง จะไดประโยชน์จากการเลี้ยงมากขึ้น
No comments