การเลี้ยงปลานิลในกระชัง(ต่อ)
บทความ > การเลี้ยงปลานิล
เมื่อได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกต้องจะต้องมีขนาดเฉลี่ย 500 กรัม ในเวลา 1 ปีผลผลิตไม่น้อยกว่า 500 กิโลกรัม ต่อไร่ต้อปี ในกรณีที่ เลี้ยงในกระชังที่คุณภาพน้ำดีมีอาหารสมทบอย่างสมบูรณ์สามารถ ให้ผลผลิตไม่น้อยกว่า 5 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์
ขั้นตอนการเลี้ยงปลานิลในกระชัง
1. กำจัดวัชพืชและพรรณไม้น้ำต่างๆ ให้หมด โดยนำมากองสุมไว้เมื่อแห้งแล้วนำมาใช้เป็นปุ๋ยหมักใน ขณะที่ปล่อยปลาลงเลี้ยงถ้าในบ่อเก่ามีเลนมากจำเป็นต้องสาดเลน ขึ้นโดยนำไปเสริมคันดินที่ชํารุต หรือใช้เป็นปุ๋ยแก่พืชผัก ผลไม้บริเวณ ใกล้เตียง
2. การใส่ปุ๋ย
ในบ่อเลี้ยงปลาควรให้อาหารธรรมชาติเกิดขึ้นอยู่เสมอ จึง จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยไปลาลายเป็นธาตุอาหารปุยที่ใช้ได้แก่ มูลวัว ควาย หมู เป็ด ไก่ นอกจากปุ๋ยที่ได้จากมูลสัตว์แล้วก็อาจใช้ปุ๋ยหมักและ ฟางข้าว ปุ๋ยพืชสตต่างๆ ได้ อัตราส่วนการใส่ปุ๋ยคอก ระยะแรกควร ครึ่งหนึ่งหรือสังเกตสีของน้ำในบ่อ กรณีที่หาปุ๋ยคอกไม่ได้ก็อาจใช้ ปุ๋ยวิทยาศาสตร์สูตร 15 : 15 : 15 ใส่ประมาณ 5 กิโลกรัมต่อไร่ต้อ เดือนก็ได้ ถ้าเป็นปุ๋ยคอกควรตากให้แห้งเสียก่อนเพราะปุ๋ยสดจะทำ ให้มีแก๊สจำพวกแอมโมเนียละลายอยู่ในน้ำมากเป็นอันตรายต่อปลา การใส่ปุ๋ยคอกใช้วิธีหว่านลงไปในบ่อโดยละลายน้ำทั่วๆ ส่วนปุยหมัก หรือปุ๋ยสดนั้นควรกองสุมไว้ตามมุมบ่อ 2 - 3 แห่ง โดยมีไม้ปักล้อม เป็นคอกรอบกองปุ๋ยเพื่อป้องกันมิให้ส่วนที่ยังไม่สลายตัวกระจัดกระจาย
3. อัตราการปล่อยปลา
จะปล่อยลูกปลาขนาด 3 - 5 เซนติเมตร ลงในอัตรา 1 – 3 ตัวต่อตารางเมตร หรือ 2,000 - 5,000 ตัวต่อไร่
4. การให้อาหาร
การใส่ปุ๋ยเป็นการให้อาหารแก้ปลานิลที่สำคัญมากวิธีหนึ่ง เพราะจะได้อาหารธรรมชาติที่มีโปรตีนสูงและราคาถูก แต่เพื่อเป็น การเร่งให้ปลาที่เลี้ยงเจริญเติบโตเร็วขึ้นหรือถูกต้องตามหลักวิชาการ จึงควรให้อาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรทเป็นอาหารสมทบด้วย เช่น รำปลายข้าวเศษอาหารที่เหลือจากโรงครัวหรือภัตตาคาร อาหาร
ประเภทพืชผัก เช่น แทนเป็ด สาหร่าย ผักตบชวาสับให้ละเอียด อาหารสมทบเหล่านี้ควรเลือกชนิดที่มีราคาถูกและหาได้ง่ายส่วน ปริมาณที่ให้ก็ไม่ควร เกิน 4 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักปลาที่เลี้ยง
ผลผลิตและการจับจำหน่าย ระยะเวลาการจับจำหน่ายไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับขนาดของ ปลานิลและความต้องการของตลาด โดยทั้งไปปลานิลที่ปล่อยลงเลี้ยง ในบ่อรุ่นเดียวกันก็จะใช้เวลาประมาณ 1 ปีจึงจะจับจำหน่าย เพราะ ปลานิลที่ได้จะมีน้ำหนักประมาณ 2 - 3 ตัวต่อกิโลกรัมซึ่งเป็นขนาดที่ ตลาดต้องการตลาดของปลานิลส่วนใหญ่ยังใช้บริโภคภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม มีโรงงานห้องเย็นรับซื้อปลานิลปลานิลแตงเพื่อแปร รูปส่งออกจำหน่ายต่างประเทศ โดยโรงงานจะรับซื้อปลาขนาด 400 กรัมขึ้นไป เพื่อแช่แข็งส่งออกทั้งตัวและรับซื้อปลาขนาด 100 - 400 กรัม เพื่อแล่เฉพาะเรื้อแช่แข็งหรือนำไปแปรรูปเพื่อส่งออกต่อไป
การตลาดและผลตอบแทน
ราคาและผลผลิตปลานิลแต่ละท้องถิ่นจะแตกต่างกัน ตลาดในชนบริโภค ตรงกันข้ามกับตลาดในเมืองมีความต้องการปลา ขนาดใหญ่ ราคาของปลาจึงแตกต่างกันโดยปกติราคาขายจะสูงใน ช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายนสำหรับราคาจำหน่ายที่ฟาร์มขึ้น กับขนาดของปลาประมาณ 10 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับราคาขายปลีก โดยเฉลี่ยราคาอยู่ที่ 20 – 20 บาทต่อกิโลกรัมผลต่างระหว่างราคา ฟาร์มและราคาขายปลีกเท่ากับ 10 - 15 บาทต่อกิโลกรัม ราคาปลา นิลแล่เฉพาะเนื้อมีราคาอยู่ระหว่าง 75 - 80 บาทต่อกิโลกรัม และ สำหรับปลานิลแช่แข็งทั้งตัวอยู่ระหว่าง 30 - 35 บาทต่อกิโล
